เมืองดานังซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนกลางของเวียดนามถือเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งรอให้คุณไปสำรวจ ดานังเป็นที่รู้จักในด้านภูมิประเทศที่น่าทึ่ง มรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน และการต้อนรับที่อบอุ่น ดานังนำเสนอการผสมผสานที่มีเอกลักษณ์ระหว่างเสน่ห์แบบดั้งเดิมและความมีชีวิตชีวาสมัยใหม่ ตั้งแต่ชายหาดเก่าแก่และวัดโบราณไปจนถึงตลาดที่พลุกพล่านและอาหารเลิศรส

เวียดนาม ประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติ มอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับนักเดินทาง แม้ว่าจะมีจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลมากมายให้สำรวจในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ แต่ฮานอยซึ่งเป็นเมืองหลวงก็มีความโดดเด่นในฐานะสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชม ตั้งแต่มรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งไปจนถึงอาหารที่น่ารับประทานและภูมิทัศน์ที่งดงาม

ถ้ำฟองญาตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติฟองญา แกะบ่าง ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนอายุกว่า 400 ปี อยู่ทางเหนือของนครโด่งเหยไปประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีความยาวมาก ถึง ประมาณ 7,700 เมตร นอกจากนั้นยังมีความน่าสนใจเพราะถ้ำแห่งนี้เป็นที่สุดหลายอย่าง ถ้ำฟองญาเป็นถ้ำในน้ำที่ยาวที่สุดเป็นถ้ำที่มีความสวยงามด้วยหินงอกหินย้อย […]

กั๊ตบาอยู่ในอ่าวฮาลอง แต่หากจะพูดให้ตรงต้องบอกว่าเกาะกั๊ตบาอยู่ในอ่าวลานฮา ส่วนต่อขยายของอ่าวฮาลอง เกาะกั๊ตบามีขนาดถึง 285 ตารางกิโลเมตร ขณะที่อ่าวฮาลองในเขตชั้นในมีเกาะเล็กเกาะน้อยรวม 775 เกาะ กินพื้นที่ 334 ตารางกิโลเมตร พูดได้ว่ากั๊ตบาเกาะเดียวใหญ่เกือบเท่ากับอ่าวฮาลองในเขตชั้นใน ทว่าสองส่วนนี้อยู่กันคนละสังกัด อ่าวฮาลองขึ้นกับจังหวัดกว่างนิงห์

เมืองญาจางอยู่ใกล้ไทยเพียงนิดเดียว ถ้าหากเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ก็จะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ราว ๆ 3 ชั่วโมงเท่านั้น โดยที่ตั้งของเมืองญาจางก็อยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดคั้ญฮหว่าห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติกามซัญ เมืองกามซัญ ประมาณ 30 กิโลเมตร เมืองญาจาง อดีตนั้นเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรจามปามาก่อน

ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมเป็นทะเลสาบน้ำจืดสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงฮานอย มีบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบ โอบล้อมด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีตำนานเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การสร้างชาติของเวียดนาม และยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชมธรรมชาติและสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่อยู่ภายในบริเวณ เช่น หอคอยเต่า สะพานแสงอาทิตย์ และวัดเนินหยก

เมืองบัคฮา เมืองเล็กๆ โอบล้อมด้วยขุนเขาและมีทะเลสาบใจกลางเมือง บรรยากาศดูคล้ายๆ กับเมืองซาปาเมื่อหลายสิบปีก่อน เมืองนี้จึงได้รับฉายาว่า ลิตเติ้ลซาปาและที่นี่ยังเป็นบ้านของ 14 ชนเผ่า ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตดั้งเดิม ชนเผ่าส่วนใหญ่ที่มีจำนวนมากที่สุดในบัคฮา คือม้ง แต่ชนเผ่าที่มีอิทธิพลในอดีตกลับเป็นเผ่าไตย้อนกลับไปในสมัยฝรั่งเศสปกครองที่นี่ตระกูลฮวง

อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ อุทยานที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวทั่วไปสักเท่าไหร่นัก ยกเว้นนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบและมีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ ภูเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กิโลเมตรอุทยานแห่งชาติบาเบ๋เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นแบบ 100%

ที่นี่เป็นตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ที่นี่จึงเป็นไฮไลท์ของเมืองเกิ่นเทอเลยก็ว่าได้ แต่หากใครที่จะเดินทางมาตลาดนี้คงต้องตื่นเช้า ๆ เนื่องจากตลาดนี้จะเริ่มตั้งแต่ ตี 4 จนถึงประมาณ 10 โมงเช้า แต่ตลาดน้ำของที่นี่คือตลาดน้ำจริง ๆ คือบางร้านเพื่อน ๆ จะต้องพายเรือเพื่อไปซื้อของเลยทีเดียวสามารถพบกับบรรยากาศของวิถีพื้นเมืองของที่นี่อีกด้วย

เมืองเก่าฮอยอันแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ตั้งแต่ พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆ ภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี